การเก็บข้อมูลการตลาดผ่าน QR Code

by ScanMe SeeScore · August 2, 2019

การเก็บข้อมูลการตลาดผ่าน QR Code

QR Code ในโลกนี้มีทั้งหมด 7 แบบ แต่ที่ใช้ในบ้านเราทั่วไปมี 2 แบบ คือ Static Code ได้แก่พวก code เดียว แสดงผลอย่างเดียวเช่น QR ที่เราไว้จ่ายเงิน หรือ download ข้อมูลอะไรมาอ่าน ที่เรา scan ไปกี่ครั้ง ก็ได้ข้อมูลชุดเดิมมา QR อีกแบบ เรียกว่าแบบ dynamic คือข้อมูลจะเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆตามที่ต้นทางจะใส่ไว้
การเก็บข้อมูลด้วย QR Code สะดวกกว่าการเก็บด้วยคนไปยืนถามแบบสมัยก่อนมาก เพราะวิธีเดิมนั้นทั้งช้า ต้นทุนสูงและเสี่ยงกับการได้ข้อมูลที่มั่วมา เพราะผู้ถูกสัมภาษณ์อาจไม่สะดวกตอบอะไรยาวเกินไป หรือรู้สึกว่าถูกรบกวน หรือผู้สัมภาษณ์อาจจำเป็นต้องตอบคำถามมาให้ครบเพราะกลัวแบบสอบถามนั้นเสีย
QR Code เป็นเพียงสื่อที่ให้ใช้เก็บข้อมูลเท่านั้น จุดสำคัญที่จะทำให้ข้อมูลเกิดประโยชน์คือ การตั้งคำถามว่าจะเก็บข้อมูลอะไรบ้าง และการออกแบบรายงานที่ได้จากการนำข้อมูลนั้นมาใช้
เมื่อได้ข้อมูลมั่วมา ข้อมูลนั้นก็ไม่มีประโยชน์
จุดเด่นมากของการเก็บข้อมูลแบบ QR Code คือ Location Based ที่ช่วยบอกตำแหน่งที่ชัดเจนว่า ข้อมูลนี้ถูกเก็บมาจากจุดใด location นี้แหละที่นักการตลาดเอาข้อมูลมาใช้ได้มากมายมหาศาล เป็นข้อมูลที่เหนือกว่าการเก็บข้อมูลอื่นทั้งหมด
นอกจากจะใช้เก็บข้อมูลแล้ว QR Code ยังประยุกต์ใช้ประโยชน์ในทางอื่นได้อีกด้วย
– ป้องกันสินค้าปลอม วิธีการคือการติด QR code กับ สินค้าทุกชิ้น1 code : 1 ชิ้น เมื่อเกิดการ scan code ซ้ำกันจากต่าง location กัน ระบบจะแจ้งว่า code นี้มีการ scan ซ้ำ ระบบนี้จะช่วยป้องกันความเสียหายให้กับเจ้าของสินค้าได้มหาศาลเพราะทุกวันนี้เราแทบไม่มีโอกาสรู้เลยว่าเรากำลังโดนใครปลอมสินค้าเราอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะสินค้าที่ปลอมง่ายเช่น อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ ของกินต่างๆ

– ใช้จัดรายการส่งเสริมการขาย โดยการใช้วิธี scan นี้ สามารถแทนการออกแบบ-พิมพ์-ส่งคูปอง ทั้งกระบวนการได้เลย แถมเรายังได้รู้อีกด้วยว่า ผู้ร่วมรายการชิงโชคอยู่แถวไหนบ้าง (จาก location ที่ส่งข้อมูลเข้ามา)

– ใช้ลงทะเบียนรับประกันการซื้อสินค้า แทนการเขียนไปรษณีย์บัตร
– ใช้ทำ market survey ได้ว่าสินค้าของเราจริงๆแล้ว ไปอยู่ในบ้าน end user ที่ไหนบ้าง ซึ่งข้อนี้ สำหรับผมแล้วคือจุดเด่นที่สุด เพราะช่วยให้นักการตลาด/เจ้ของสินค้าทราบว่าปลายทางสุดท้ายแล้ว สินค้าของเราไปอยู่ที่ไหนกันบ้าง ต่อไปเวลาจัดกิจกรรม การตลาด หรือยิงแอด จะได้ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

– ใช้ spy คู่แข่งได้ด้วยนะ ไม่อยากจะบอก
การพัฒนาระบบ ลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน เพราะฉะนั้นอย่าคิดทำเองเลย ใช้ระบบที่มีอยู่แล้วเถอะ และไม่นับเวลาที่ต้องใช้ในการพัฒนาอีก คือแค่อยากบอกว่า ถ้าต้องใช้ข้อมูล ให้เอาเวลาไปคิดว่าเราต้องการข้อมูลอะไรดีกว่า อย่ามัวเสียเวลานั่งเริ่มต้นใหม่ ต้นทุนการเก็บข้อมูลจริงๆต่อชุดนี่ไม่เกินร้อยบาท แต่ประโยชน์ที่เราได้จากมันนั้นมากเกินกว่าจะประเมินค่าได้